top of page
  • 執筆者の写真SHIF

สัมผัสใบไม้ร่วงฮาโกเน่ได้ทั่วเมืองคุ้ม สะดวกยิ่งขึ้นด้วย Digital Hakone Freepass

更新日:2023年12月5日

-แนะนำวิธีซื้อและวิธีการใช้งาน-



ฮาโกเน่(Hakone-箱根) คงจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนคุ้นชื่อคุ้นหูกัน เมืองฮาโกเน่ตั้งอยู่ที่จังหวัดคานากาว่า ซึ่งเป็นจังหวัดที่ติดกับโตเกียว เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งในคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืนซักคืนสองคืนก็เหมาะเป็นที่สุด เพราะที่เมืองนี้เป็นแหล่งออนเซ็น มีที่พักแบบเรียวกังจำนวนมาก และเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย และที่สำคัญเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากเมืองนี้อีกด้วย


ในวันนี้ชิฟจะมาแนะนำ Digital Freepass ของบริษัทรถไฟ Odakyu ที่จะช่วยให้การเดินทางไปยังฮาโกเน่นั้นสะดวก ประหยัดคุ้มค่ายิ่งขึ้น พร้อมวิธีการซื้อ วิธีการใช้งาน และรวมไปถึงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกเน่ เป็นไกด์ไลน์ให้ทุกคนได้ไปเที่ยวตามรอยกัน



ทำความรู้จัก Hakone Freepass

Hakone Freepass

Hakone Freepass เป็นตั๋วที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทางท่องเที่ยวในฮาโกเน่ โดยสามารถนั่งยานพาหนะในเครือบริษัท Odakyu ได้ดังนี้ คือ รถไฟสาย Odakyu ไป-กลับได้ 1 ครั้ง ระหว่างสถานี Shinjuku – Odawara และยานพาหนะทั้งหมด 8 ชนิดในฮาโกเน่แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ได้แก่ รถไฟ รถราง กระเช้าลอยฟ้า เรือล่องทะเลสาบ และรถบัสอีก 4 สาย ครอบคลุมทุกการเดินทางภายในเมืองฮาโกเน่ โดยตั๋วมี 2 ประเภท คือ แบบ 2 Days และ 3 Days สามารถเลือกได้ตามรูปแบบการท่องเที่ยวของคุณเลย นอกจากนี้หากต้องการเดินทางแบบรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นก็สามารถซื้อตั๋วรถด่วน Romancecar เพิ่มได้ในราคาพิเศษ

รายละเอียด Hakone Freepass



วิธีการซื้อ Digital Freepass

ตอนนี้ตั๋ว Hakone Freepass สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก คุณสามารถซื้อตั๋วแบบ e-ticket ได้ผ่าน Smart phone ของคุณที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้

*การซื้อและใช้งาน Hakone Freepass รูปแบบ e-ticket ต้องใช้งานผ่าน Smart phone เท่านั้น

Hakone Freepass
Hakone Freepass
Hakone Freepass
Hakone Freepass
Hakone Freepass

เมื่อทำการซื้อเรียบร้อยแล้วหน้าตาของตั๋วจะเป็นแบบนี้จ้า มีรายละเอียดของตั๋วพร้อม Qr code สำหรับแสกนบริเวณทางเข้า


การซื้อตั๋วแบบดิจิทัลหรือ e-ticket มีข้อดีและข้อควรระวังดังต่อไปนี้

ข้อดี

  • ซื้อตั๋วได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางสมาร์ทโฟน

  • ชำระค่าตั๋วผ่านบัตรเครดิตได้ง่ายๆ

  • สามารถซื้อตั๋วได้ล่วงหน้าได้ และ refund ตั๋วได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน

  • ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวรอซื้อตั๋วที่เคานเตอร์จำหน่ายตั๋ว

  • หมดกังวลเรื่องการทำตั๋วหายระหว่างเดินทาง

  • สามารถโอนตั๋วที่ซื้อไปยังมือถือเครื่องอื่นได้

  • ในจุดที่ต้องซื้อตั๋วเช่น โรปเวย์ หรือรถราง สามารถโชว์ตั๋วจากจอมือถือให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วดูแล้วผ่านเข้าไปได้เลยสะดวกมากๆ

ข้อควรระวัง

  • ตั๋วสามารถใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟนเท่านั้น ไม่รองรับคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต

  • ใช้ตั๋วได้เพียง 1 ใบ ต่อมือถือสมาร์ทโฟน 1 เครื่องเท่านั้น

  • ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลาที่ใช้งานตั๋ว

  • ชำระเงินค่าตั๋วผ่านบัตรเครดิต หรือ PayPay

  • ต้องระวังไม่ให้แบตเตอร์รี่สมาร์ทโฟนหมด



วิธีการซื้อตั๋วดิจิตอลรถด่วน Romancecar

Romancecar เป็นรถด่วนที่วิ่งไปกลับระหว่างสถานี Shinjuku - Hakone Yumoto โดยปกติการใช้บริการ Romancecar จะต้องเสียค่าโดยสารทั้งหมด 2 อย่างรวมกัน คือ ค่าโดยสารรถไฟปกติและค่าโดยสารรถด่วน แต่ถ้าเรามีตั๋ว Hakone Freepass ค่าโดยสารรถไฟปกติจะถูกรวมเอาไว้อยู่แล้ว เราแค่จ่ายค่ารถด่วนเพิ่มเท่านั้น และจำเป็นต้องจองที่นั่งเพราะรถด่วนเป็นระบบระบุที่นั่ง

หากต้องการเห็นวิวดี เราแนะนำให้จอง Car no.1 ที่นั่งฝั่งขวา จะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิระหว่างทางได้อย่างชัดเจน


รายละเอียดเกี่ยวกับรถด่วน Romancecar https://www.odakyu.jp/english/romancecar/surcharges/


วิธีการซื้อตั๋วดิจิทัลรถด่วน Romancecar เข้าไปที่เว็บไซต์ EMot หน้าหลักแล้วทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้


Hakone Freepass romancecar
Hakone Freepass romancecar
Hakone Freepass romancecar

ตั๋ว Romancecar จะไม่ใช้ผ่านประตูตรวจตั๋ว ให้เราเก็บตั๋วไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการโดยสารรถด่วนเท่านั้น


ส่วนตั๋วที่จำเป็นต้องใช้ผ่านประตูตรวจตั๋วก็คือ Hakone Freepass



วิธีการใช้งานตั๋ว Hakone Freepass

Hakone Freepass emot

วิธีการใช้งานนั้นง่ายมาก เมื่อเรามาถึงทางสถานีให้มองหาเคาท์เตอร์ที่มีพนักงานอยู่ แล้วหากล่องสีเหลืองแบบนี้ (หรือบางสถานีก็เป็นกล่องสีขาว) เห็นเด่นแต่ไกลแน่นอน เปิดหน้าตั๋ว e-ticket ของ Hakone Freepass แล้วคว่ำหน้าจอลงบนเครื่องแสกน แค่นี้ก็สามารถเข้าไปยังด้านในสถานีได้แล้ว!!


odakyu

ในกรณีที่เป็นรถบัสแค่โชว์หน้าจอให้คนขับรถดูก็สามารถขึ้นได้เลย!!


Hakone Freepass

*ข้อควรระวัง* ภายในฮาโกเน่มีรถบัสของบริษัทอื่นอยู่ด้วย ให้สังเกตโลโก้ HAKONE FREEPASS ที่ตัวรถบัส



เริ่มออกเดินทางด้วยรถด่วน ROMANCECAR GSE

Romancecar
Romancecar

ในครั้งนี้เราเริ่มออกเดินทางจากสถานี Shinjuku ซึ่งเป็นสถานีต้นสายของ Odakyu และเลือกนั่ง ROMANCECAR 70000 series GSE สีแดงสดใสขบวนนี้ เพราะขบวนนี้มีกระจกบานใหญ่ และมีดีไซน์ที่เรียบหรูในคอนเซปต์ Graceful

GSE นั้นย่อมาจากคำว่า Graceful Super Express นั่นเอง


Romancecar

ภายในขบวนรถให้ความรู้สึกโปร่งเพราะมีกระจกบานใหญ่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจน


Romancecar

โดยเฉพาะที่นั่งด้านหน้าสุด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้แบบเต็มๆตาเลย ในครั้งนี้เราเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จึงสามารถเห็นดอกหญ้าที่กำลังสวยงาม คู่กับไม้ใบแดงได้พร้อมๆกัน


Romancecar

จากที่นั่งทางด้านขวาสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายวันนั้นฟูจิซังขี้อายเลยได้เห็นแบบแว้บๆเช่นนี้


Romancecar

จากชินจูกุไปยังฮาโกเน่ยุโมโตะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 80 - 90 นาที

ชมวิวบรรยากาศชนบทญี่ปุ่นระหว่างทางไปเพลินๆไม่มีเบื่อ


Romancecar

Free Wi-Fi ก็มีให้นะ


hakone yumoto

มาถึง Hakone-Yumoto แล้วจ้า อากาศแจ่มใส ลมเย็นๆฤดูใบไม้ร่วงกับเสียงธารน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาสดชื่นที่สุด!!

จากนี้เราจะเริ่มเดินทางท่องเที่ยวฮาโกเน่แบบ 1Day กัน สามารถเดินทางได้ตามลำดับสถานที่ด้านล่างนี้เลยนะ โดยเริ่มจากขึ้นบัสหมายเลข 3 ที่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ Hakone-Yumoto ได้เลยย



เที่ยวในฮาโกเน่ฤดูใบไม้ร่วง 1Day🍁

1.ทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซนโกคุฮาระ (Sengokuhara Susuki Grass Fields-仙石原すすき草原)

ทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซนโกคุฮาระ (Sengokuhara Susuki Grass Fields-仙石原すすき草原)

หากพูดถึงไฮไลท์ของการมาเที่ยวฮาโกเน่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราขอแนะนำที่นี่เลย!!

ทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซนโกคุฮาระ สถานที่ถูกเลือกให้เป็นจุดชมวิวที่สวย TOP 50 ของจังหวัดคานากาว่า ที่ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะสวยที่สุดในช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ดอกหญ้าจะเริ่มบานและไหวปลิวเมื่อกระทบกับสายลม และเมื่อกระทบกับแสงแดดจะสะท้อนแสงสีทองเป็นประกาย


ทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซนโกคุฮาระ (Sengokuhara Susuki Grass Fields-仙石原すすき草原)

ทุ่งหญ้าแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่มาก สามารถกวาดตาชมได้แบบสุดลูกหูลูกตา ขณะที่คุณนั่งบัสมาลงที่นี่จะเห็นแสงสีทองของทุ่งหญ้าผ่านกระจกรถบัส สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจจะมาแล้ว


ทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซนโกคุฮาระ (Sengokuhara Susuki Grass Fields-仙石原すすき草原)

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/184



2.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

หลังจากที่ชมทุ่งหญ้าเรียบร้อยแล้วกลับมาที่ขึ้นรถบัสสายเดิม รถจะวิ่งผ่านพิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน ชิฟก็เลยลงมาแวะชมความงามของศิลปะแก้วคู่กับบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงดูซะหน่อย หากคุณมีบัตร Hakone Freepass จะได้รับส่วนลดค่าเข้าชม 100 เยนด้วยนะ!


พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

เมื่อเข้ามาถึงที่นี่ ภาพแรกที่เห็นคือบรรยากาศของดอกหญ้าที่ทำจากแก้วมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลังจากทางหน้าต่าง เป็นภาพที่งดงามมากเลย


พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

ในส่วนของธรรมชาติที่นี่ จะมีการนำแก้วมาประดับควบคู่ผสมผสานกับธรรมชาติ จนได้ภาพธรรมชาติที่งดงามและแปลกตาไปอีกแบบ


พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

ดอกหญ้าของจริง เมื่อมีแก้วมาประดับ ยิ่งสะท้อนระยิบระยับมากขึ้น มองไปทางไหนก็สวยมากๆเลย


พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

ที่บริเวณระฆังจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีกับธารน้ำคู่กัน เป็นบรรยากาศที่หาชมได้เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น


พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วฮาโกเน่ เวเนเชี่ยน (Venetian Glass Museum-箱根ガラスの森美術館)

Google Map: https://maps.app.goo.gl/Uoa2xGvFngrpsjsT7



3.Hakone Ropeway

Hakone Ropeway

เรานั่งบัสต่อไปลงที่สถานี Togendai เพื่อขึ้น Hakone Ropeway วิวจากกระเช้าลอยฟ้าเราจะได้เห็นทั้งภูเขาไฟฟูจิและใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณภูเขาแบบ 360 องศากันเลย!! เรียกได้ว่าลอยอยู่บนความงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของฮาโกเน่เลย

กระเช้าลอยฟ้าแห่งนี้จะพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Owakudani และสถานีสุดท้าย Sounzan ที่เป็นทางเชื่อมสำหรับนั่ง Hakone Tozan Cable Car


Hakone Ropeway togendai

นั่งรถบัสมาลงที่สถานีโรปเวย์ Togendai


Hakone Ropeway togendai

บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีจากภายในสถานีก็สวยมาก อยากจะหยุดเวลานี้ไว้


hakone Freepass

ที่สถานีนี้ก็สามารถใช้ Digital Hakone Freepass แสกนได้แบบนี้เลยจ้า สะดวกมากๆ ไม่ต้องต่อคิวยาวซื้อตั๋ว รู้สึกชนะมากที่เดินเข้ามาแสกนได้เลย



4.โอวาคุดานิ (Owakudani-大涌谷)

owakudani

เมื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามาลงที่สถานี Owakudani เราจะได้กลิ่นกำมะถันชัดขึ้นมาทันที!! เพราะที่นี่คือภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ มีการระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อ 3000 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีความร้อนอยู่ภายใต้ภูเขาและยังรอวันปะทุอยู่ แต่ปลอดภัยไว้วางใจได้เพราะเทคโนโลยีที่ญี่ปุ่นสามารถพยากรณ์การปะทุล่วงหน้าได้เป็นเดือนเลยนะ มาเที่ยวละอยู่ๆปะทุไม่มีแน่นอน


owakudani
ไข่ดำ โอวาคุดานิ

สิ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงที่นี่คือต้องกินไข่ดำ!!!

คนที่เพิ่งเคยเห็นอาจจะตกใจว่ามันสีดำจะกินได้จริงหรอ มันคือไข่ต้มที่เอาไปต้มด้วยน้ำแร่กำมะถันของภูเขาไฟแห่งนี้ จึงทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีดำ คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่ากินไข่ดำฟองนึงจะอายุยืนขึ้น 7 ปีเลย


ไข่ดำ โอวาคุดานิ

พอแกะเปลือกออกมาก็เป็นไข่ต้มสีขาวธรรมดา ความอร่อยของไข่ต้มที่นี่สำหรับเราแล้วคือเกลือที่เค้าให้มา มันอร่อยมากก ไข่ต้มอร่อยเพราะเกลือล้วนๆ


โอวาคุดานิ

นอกจากนี้ยังมีของฝากเกี่ยวกับไข่ดำอีกมากมายวางขายที่นี่ลองแวะเข้าไปซื้อดูก่อนกลับได้นะ





5.Hakone Tozan Cable Car

Hakone Tozan Cable Car

หลังจากทานไข่ดำต่ออายุกันแล้ว เรานั่ง Hakone Tozan Cable Car จากสถานี Owakudani ไปลงที่สถานี Sounzan กันเลย ใช้ Digital Hakone Freepass แตะเข้าสถานีได้เช่นเคย สะดวกสบายไม่ต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วกับคนเยอะๆ


Hakone Tozan Cable Car

รถราง Hakone Tozan Cable Car เป็นรถรางที่ให้บริการระหว่างสถานี Gora-Sounzan รถรางสายนี้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สองข้างทางต้นไม้จะเป็นสีส้มแดงเหลืองน้ำตาลสลับกันอย่างงดงาม เมื่อรถวิ่งผ่านธรรมชาตินี้เหมือนกับหลุดเข้าไปในอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีเลย

ส่วนช่วงมิถุนายนถึงกรกฏาคมก็มีดอกไฮเดรนเยียบานตลอดสองข้างทาง จะมาเที่ยวช่วงฤดูไหนก็สวยทั้งนั้น

เว็บไซต์: https://www.hakone-tozan.co.jp/en/



6.Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

เมื่อลงมาถึงสถานี Sounzan ก็จะพบกับจุดแวะพักสุดชิค Cu-mo Hakone ที่มีบริการออนเซนเท้าที่บริเวณระเบียงสถานี และมีจุดขายของฝากสุดชิค รวมถึง Select shop อีกด้วย จากระเบียงเราจะสามารถเห็นวิวของฮาโกเน่โดยมีภูเขาที่มีตัวอักษร 大(dai) บนไหล่เขาเมียวโจกะทาเกะ


Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)
Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

ซื้อขนมและมาแช่ออนเซนเท้า พร้อมกับชมวิวภูเขาที่นี่ฟินสุดๆ ที่สำคัญค่าบริการออนเซนเท้าฟรี! แต่คิดว่าหลายคนคงจะไม่ได้เตรียมผ้าขนหนูมาสำหรับเช็ดเท้าหลังแช่เสร็จกันใช่ไหมคะ?

สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของฝากด้านในสถานีเลย


Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

ร้านขายของฝากด้านในสถานี มีสินค้าชิคๆขายเพียบเลย เหมาะจะซื้อให้ตัวเองและเป็นของฝาก


Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

ผ้าขนหนูสำหรับผู้เข้าออนเซนเท้า


Cu-mo Hakone (cu―mo箱根/クーモはこね)

และนี่คือเมนูเครื่องดื่มที่เป็นไฮไลท์ของสถานี Sounzan สมูทตี้ที่มีสายไหมโปะด้านบน ให้ความรู้สึกเหมือนก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เมื่อนำมาถ่ายคู่กับบรรยากาศที่ระเบียงเข้ากันดีสุดๆเลย นั่งดื่มเครื่องดื่มไป แช่ออนเซนเท้าไป ฟินสุดๆแน่นอน




7.COFFEE CAMP

COFFEE CAMP

สุดท้ายนี้นั่งรถราง Hakone Tozan Cable Car มาลงที่ Gora สถานีปลายทาง แล้วแวะทานข้าวที่คาเฟ่ COFFEE CAMP คาเฟ่แห่งนี้เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2021 โดยนำอาคารเก่าสหกรณ์การเกษตรมารีโนเวท และมีเกสต์เฮ้าส์ที่ชั้น 2 ด้วย

เมนูเด็ดของที่นี่ตามชื่อร้านเลย คือกาแฟ ใครที่เป็นสายกาแฟเหมาะที่จะมานั่งจิบกาแฟที่นี่เลย นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวอื่นๆที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ในครั้งนี้เราได้ลองทานข้าวแกงกะหรี่ นำมาเสิร์ฟร้อนๆ อร่อยและเติมพลังระหว่างการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี


COFFEE CAMP

เว็บไซต์: https://coffeecamp-hakone.com/



8.ล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาบอาชิโนะโกะ

ล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาบอาชิโนะโกะ

สุดท้ายนี้หากมีเวลาอยากให้ลองไปล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาบอาชิโนโกะ แต่เราเวลาไม่เพียงพอเลยทำได้เพียงมองอยู่ห่างๆ

หากนั่งเรือโจรสลัดคุณจะสามารถชมทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีได้จากกลางทะเลสาบคู่กับภูเขาไฟฟูจิและประตูโทริอิสีแดงของศาลเจ้าฮาโกเน่

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/105


เต็มอิ่มกับบรรยากาศสวยๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของฮาโกเน่แล้วก็เดินทางกลับ โดยจองรถด่วน Romancecar ผ่านทางเว็บไซต์ EMot เช่นเดิม สะดวกมากๆ ระหว่างนั่งรถกลับไปสถานี ก็จองที่นั่งได้เลยทันที ถึงสถานีก็แค่แตะตั๋วที่เคาท์เตอร์ EMot แล้วเข้าไปนั่งบนรถไฟได้เลย!!

หากมีโอกาสมาเที่ยวฮาโกเน่ในครั้งหน้าลองซื้อตั๋ว Ditigal Hakone Freepass กันดูนะ




Sponsored by Odakyu Railway

















bottom of page