top of page
  • 執筆者の写真SHIF

พิชิตสิวระยะยาวไม่พึ่งหมอ!!

สวัสดีทุกคน

บทความนี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นเมื่อปี 2019 แต่ไม่ได้เปิดเผยซะที(ลืม)

สกินแคร์อาจจะมีความเก่าไปบ้างแต่ยังเป็นตัวที่ยังใช้ประจำจนปี 2022 นี้เลย

ณ ปัจจุบันสิวดีขึ้นมาแล้ว จากที่ได้ผ่านประสบการณ์ผิวพังมา

บทความนี้อาจจะช่วยให้ใครหลายคนมีผิวที่ดีขึ้นมาได้บ้างนะ



วันนี้จะมาแชร์วิธีรักษาสิวในช่วงนี้

ใครที่เป็นสิวฮอร์โมน = สิวที่ขึ้นรอบคาง รอบกรอบหน้า สิวอุดตัน

มาถูกทางแล้วค่ะ วันนี้เรามาแนะนำวิธีรักษาสิวฮอร์โมนของเรา

ทั้งจากภายในและภายนอก



ก่อนอื่นเล่าความเป็นมาก่อน

ใครอยากรู้แค่ข้อมูลสกินแคร์ข้ามไปด้านล่างได้เลยจ้า

เราเป็นคนที่หน้าใสมาก แทบจะไม่มีปัญหาสิวมาก่อนเลย มีขึ้นบ่สงประปราย

ไม่แต่งหน้าก็อยู่ได้ แต่งหน้าก็แต่งบางๆมาตลอด

แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตั้งแต่เข้าปี2018 อยู่ๆสิวก็เห่อหนักมากที่สุดในชีวิต


แล้วพอมองย้อนกลับไป จริงๆเราเริ่มมีสิวตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่น

ช่วงที่อยู่ปี3 มาซัมเมอร์2เดือน ผิวขาวขึ้นมากแต่กลับมีสิวขึ้นเยอะมากบริเวณรอบคาง

พอกลับไทยก็เริ่มไปคลินิคสิวครั้งแรก

ได้ยามา พร้อมกับหาหมอทุกอาทิตย์ รักษาไม่นานก็หายแทบจะไม่มีสิว


โดยปกติเป็นคนนอนดึกมากกกกกก

โดยเฉพาะช่วงที่เรียนจบใหม่ๆโหมทำงานนอนวันละไม่กี่ชม. ทำงานติดๆกันครึ่งเดือน

สิวก็ไม่ขึ้น อาจจะเพราะวันที่ว่างก็จัดเวลานอนทดแทนให้ร่างเสมอ


พอเริ่มมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น มันไม่มีวันให้พักเยอะขนาดนั้น..

แถมต่อให้นอนเท่าไหร่ก็รู้สึกเพลีย

เลยได้รู้ว่า สิวของเราเนี่ยมันมาจากการพักผ่อนไม่พอ เครียด ฮอร์โมนบาลานซ์

และอากาศของประเทศญี่ปุ่น

หลายคนอาจจะมีความคิดที่ว่าญี่ปุ่นอยู่แล้วผิวสวย

ไม่ทุกคนหรอกค่ะ เราคนนึงล่ะ ที่อยู่แล้วผิวแย่

ใช่ค่ะ ว่าประเทศนี้อากาศดี แต่ด้วยอากาศของที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น4ฤดูกาล

ทำให้การดูแลผิวของแต่ละฤดูนั้นต่างออกไปด้วย

ตามความชื้น ความแห้ง และความแรงของแสงแดด


สกินแคร์ญี่ปุ่นที่เคยใช้ตอนอยู่ไทย มาใช้ที่นี่แล้วสิวขึ้น..

ใช้สกินแคร์ถูกๆคือสิวขึ้นหมดเลย

ผิวและร่างกายมันปรับตัวตามไม่ทัน แต่พออยู่มาพักนึงเริ่มปรับตัวได้ไม่มีปัญหาไร

ส่วนใหญ่จะเป็นสิวฮอร์โมน ดำๆ อุดตันรอบปากแค่นั้น


แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาคือเยอะจนเราใส่ผ้าปิดปากทุกวันไม่อยากเจอใคร

ไม่อยากให้ใครเห็นหน้า ไม่อยากแต่งหน้า

ก็เลยได้ลองสกินแคร์รักษาสิวเป็นจำนวนมากกกก

ทำไงก็ได้ให้หายไวที่สุด T____T


แถมเป็นปีแรกที่ผิวแพ้เกสรดอกไม้!!

โรคแพ้เกสรดอกไม้เป็นโรคภูมิแพ้ที่คนญี่ปุ่นเป็นกันมากที่สุด

คนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่าแพ้เกสรดอกไม้ทุกชนิด แต่เปล่าจ้า

ที่ญี่ปุ่นตามบนเขาจะมีต้นสน ต้นอะไรมากมาย ซึ่งเกสรมันจะปลิวเยอะมากตลอดปี

แต่ละคนจะ แพ้คนละชนิด แต่เกสรต้นสนญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

จะเป็นเกสรที่คนแพ้เยอะมากที่สุด อาการแพ้จะแตกต่างกันออกไป

ทั้งจาม คันตา น้ำมูกไหล ไข้ขึ้น ผิวแดง คัน แล้วแต่คน


คนต่างชาติที่มาอยู่ที่นี่นานๆก็เป็นกันถ้วนหน้าเมื่อเริ่มเข้าปีที่4

ใครไม่เป็นคือโชคดีมาก ปีที่แล้วเราแค่น้ำมูกไหลเบาๆ ไม่ได้กินยาไร

ปีนี้คือคันผิว คันรอบตา ผิวรอบตาแห้งเป็นพิเศษ ทำให้ต้องหยุดสกินแคร์ทุกตัว

บวกกับทำให้ผิวอักเสบ สิวอักเสบยิ่งขึ้น

ฤดูใบไม้ผลิจึงกลายเป็นฤดูที่ใส่มากส์ปิดหน้าออกจากบ้านทุกวัน

แต่ก็ลองโน้นนี่ สินค้าที่ช่วยแก้อาการเกสรดอกไม้จนดีขึ้นมากๆ


หลังจากที่ลองมาหลายตัว หายเกือบหมดแล้ว

กลับไทยไปคลินิค ได้ยาหมอ พีลลิ่งรักษาสิวสองครั้ง ก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้หายขาด

กลับมาญี่ปุ่นก็ผิวเริ่มดีขึ้นตามกาลเวลา

จนอยู่มาวันนึงจัดเบียร์ไปสองแก้วเบาๆ

วันรุ่งขึ้นสิวกลับมาเห่อเยอะมาก!!!!


แบบจะร้องไห้ ลงทุนหมดไปเยอะมาก แต่พังเพราะกินเบียร์สองแก้ว

คราวนี้มันไม่ยอมหายด้วย แก่แล้วหรือเพราะไรไม่รู้

เมื่อก่อนกินเบียร์ไม่เป็นหนักขนาดนี้ พอหาข้อมูลมา

เวลาที่ร่างกายอ่อนเพลียหากดื่มแอกอฮอล์บางทีร่างจะไม่สามารถล้างพิษได้หมด

ทำให้ออกอาการที่ผิวแทน สิวเห่อ!!!


ละดันเริ่มหมดฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มร้อน

ใส่มากส์ปิดหน้าทุกวันก็ร้อนเกิน ได้ตัดสินใจลองสกินแคร์ชุดใหม่อีกชุด

บวกกับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตด้วย

เพราะช่วงนี้ร่างกายแย่มาก ตั้งแต่เข้าปีนี้มาป่วยทุกเดือน(จริงๆที่พิมพ์อยู่นี่ก็ป่วยอยู่)

ตอนนี้คือสิวหายเกือบหมดแล้ววววว

แถมไม่ขึ้นมาซ้ำอีกด้วย เลยจะแชร์เทคนิค และสกินแคร์

เผื่อเป็นประโยชน์แกคนที่เป็นสิวประเภทเดียวกัน


สรุปสาเหตุสิวของเรา

1.พักผ่อนไม่เพียงพอ > ภูมิคุ้มกันต่ำลง ระบบการทำงานร่างกายแย่ลง > ผิวก็แย่ลง บาเรียร์ต่ำสิวมา

2.ฮอร์โมนบาลานซ์เสียสมดุลเพราะนอนไม่พอ นอนไม่เป็นเวลา กินไม่เป็นเวลา ประจำเดือนมาไม่ตรง

3.แพ้อากาศ อากาศที่ญี่ปุ่นคือนรกของผิวสาวๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงของอากาศทำให้บาลานซ์ของผิวเสียสมดุล สาวๆญี่ปุ่นหลายคนอยากไปอยู่ไทยเพราะอากาศมันไม่แห้ง แม้จะแดดแรงแต่เป็นอุณหภูมิที่ดีต่อสุขภาพผิวโดยไม่ต้องพึ่งสกินแคร์มากที่สุดจ้า

4.พอบาเรียร์ผิวต่ำลง แพ้เกสรดอกไม้ก็ยิ่งทำให้หนักไปอีก ใครที่แพ้ pm2.5 เราจะอาการเหมือนกันจ้า ใครไม่แพ้คือโชคดีไป เราจะแนะนำวิธีป้องกันผิวจากมลภาวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ด้วยละกัน!!


ข้อควรปฏิบัติในการรักษาสิวระยะยาว

ดื่มน้ำเยอะๆ (ปกติเราดื่มเยอะอยู่แล้ว แต่ดื่มให้มากขึ้น)

นอนให้เพียงพอ อย่างน้อย6ชม. วันหยุดนอนให้เยอะที่สุด

ปกติช่วงงานเยอะ5ชม.ยังนอนไม่ค่อยได้เลย

แถมเป็นโรคนอนไม่หลับบ่อยด้วย

หากนอนไม่หลับลองทานชาสมุนไพรไม่มีคาเฟอีนเช่นคาโมมาย หลับปุ๋ยเลยย

และไม่กดโทรศัพท์ก่อนนอน30นาที ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย

ทานอาหารที่มีน้ำมันให้น้อยที่สุด ไม่ทานของทอด วันหยุดกินคลีนได้ก็กิน กินมะเขือเทศเยอะๆ เพราะมะเขือเทศมีสารลิโคปิน ช่วยกระตุ้นให้ผิวฟื้นตัวไวขึ้น อยู่ไทยกินดอยคำไปเลยค่ะ

กินวิตามินบีรวม กับวิตามินซี วิตามินที่ช่วยรักษาสิวได้ดีที่สุดคือวิตามินบี แถมยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น ใครไดเอตอยู่คือดีหมด ทานคู่กะวิตซีช่วยให้วิตบีทำงานได้ดีขึ้น

ดื่มน้ำดีทอกซ์ ในอาทิตย์นึงให้มีซักวันสำหรับดีทอกซ์ ลองหาข้อมูลทำดูนะ สูตรของเราคือแตงกวากับเลม่อน แช่น้ำไว้12ชม.แล้วดื่มจ้า

ดื่มชารอยบอสวันละแก้ว

เป็นชาที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ(ลองหาข้อมูลกันดูนะ) ไม่มีคาเฟอีน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี แก้โลหิตจาง ลดอาการบวมน้ำ แก้ท้องผูก แก้ภูมิแพ้ แพ้เกสรดอกไม้

ไม่ดื่มแอกอฮอล์

ในสังคมญี่ปุ่นนั้นการดื่มเป็นวัฒนธรรมที่มีเกือบทุกวัน หากต้องไปและเลี่ยงไม่ได้ ลองดื่มเป็นไวน์ หรือโมฮีโต้ พวกผสมสมุนไพร น้ำผลไม้เยอะๆไรงี้ ทั้งนี้แล้วแต่คนด้วย จริงๆเบียร์ก็มีสารอาหารดีต่อร่างกายเยอะ แต่สำหรับเรากินละสิวขึ้นจ้า ตัวอื่นไม่ขึ้นนะ😂

ออกกำลังกายได้ก็ออก ถ้ามีเวลาไม่พอ นอนนะ ออกกำลังกายทีหลังเบาๆที่บ้านห้านาทีแทนก็ได้ ฝืนออกกำลังกายไปก็ทำให้ร่างอ่อนเพลียกว่าเดิม ฮอร์โมนบาลานส์เสียสมดุลและสิวขึ้นอยู่ดีจ้า

ทาครีมให้น้อยขั้นตอนมากที่สุด

จริงๆแล้วผิวเราสามารถสร้างความชุ้มชื้นได้ด้วยตัวเอง ยิ่งทาครีมมากเกินไปทำให้ผิวไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ลองสังเกตุเพื่อนๆที่ไม่ค่อยแต่งหน้าสิ ผิวสวยไหมมมม คนที่ทาครีมน้อยๆเนี่ยส่วนใหญ่มีปัญหาแค่ฝ้า กระ เพราะไม่ทาครีมกันแดด แต่ไม่มีสิว ผิวเนียน หากยังผิวสุขภาพดีอยู่ไม่จำเป็นต้องฝืนบำรุงครับ การตลาดล้วนๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนด้วย แต่มลภาวะที่เจอก็ไม่เหมือนกันด้วย (หมอผิวญี่ปุ่นกล่าว)

แต่งหน้าให้น้อยที่สุด

ให้ผิวให้พักมากที่สุด ยิ่งแต่งหน้า ยิ่งปกปิดผิวก็ยิ่งฟื้นตัวยาก หากเลี่ยงการแต่งหน้าไม่ได้เพราะหน้าที่การงานพยายามใช้รองพื้นที่อ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด เดี๋ยวเราจะแนะนำของเราให้นะ



สกินแคร์ต้องห้ามของคนเป็นสิว

ห้ามใช้สกินแคร์ทีมีส่วนผสมของออยล์

เป็นสาเหตุของสิวอักเสบได้จ้า ทั้งนีออยล์บางประเภทก็ใช้ได้ แต่เป็นไปได้ช่วงเห่อมากๆ พักไปก่อน

ห้ามใช้สกินแคร์ช่วยกระชับรูขุมขน

ช่วงต้นปีสิวยังไม่หายขาดเราใช้ไปได้สามวันสิวอักเสบกว่าเดิม พอหาข้อมูลคือพวกสกินแคร์กระชับรูขุมขนคือการเพิ่มความชุ้มชื้นให้ผิวมันฟูจนรูขุมขนกระชับ กลับกันมันคืออาหารของเชื้อสิว ทำให้สิวยิ่งอักเสบหนักจ้า ให้อาหารเชื้ออิ่มท้องเลยจ้า

ห้ามใช้สกินแคร์เพิ่มความชุ้มชื้นผิวที่มากเกินไป สกินแคร์เติมน้ำผิวคือOK

ที่ญี่ปุ่นจะมีคำว่าโฮะชิสึ(保湿) แปลว่า เติมความชุ้นชื้น ส่วนเติมน้ำผิวเนี่ยคือคำว่า โฮะซุย(保水)

เราก็คิดว่ามันเป็นศัพท์ทางการตลาด เหมือนๆกันแหละ

พอเป็นสิวเท่านั้นแหละ ลองใช้ทั้งสองแบบรู้เลยว่ามันต่าง!!! สกินแคร์ประเภทเติมน้ำผิวจะมีส่วนผสมของออยล์อยู่น้อย ดีต่อสิวมากกว่าจ้า ถ้าใช้แบบเติมความชุ้มชื้นแนะนำให้ใช้ตัวที่เป็นสารเซรามิด เพราะเป็นสารที่อ่อนโยนต่อผิว และเป็นไขมันที่คล้ายกับผิวเราจริงๆมากที่สุด

ไม่ใช้คลีนซิ่งประเภทออยล์

จริงๆมีออยล์ประเภทที่สามารถใช้ได้อยู่ แต่หาข้อมูลก็จะลำบากกันอีกใช่ไหมละ ทางที่ดีใช้เจลหรือบาล์ม เดี๋ยวแนะนำตรงสกินแคร์

ไม่ใช้โฟมล้างหน้าที่แรง

โฟมล้างหน้าแรงทำให้ผิวอักเสบหนักกว่าเดิม ไม่ฟื้นฟู ใช้ตัวที่ทำให้ผิวอ่อนตัวดีที่สุด!!

ไม่ใช้ครีมผิวขาว หรือวิตามินซีที่แรง เราใช้ละหน้าดำเลยจ้า ผิวมันบางอยู่ คล้ำไปเลย ให้มันฟื้นตัวก่อนค่อยใช้กันนะ แต่ถ้าเซรั่มวิตซีที่อ่อนโยนผิวคือโอเคนะ ต้องเลือกดีๆด้วยจ้า เราจะแนะนำแค่ตัวที่เราใช้ละโอเคให้ฟังละกัน


ป.ล.ทั้งนี้คือกฏที่เราปฎิบัติตอนที่เป็นสิวนะ แต่ละคนอาจจะเห็นผลต่างกันออกไป



สกินแคร์กู้สิวของเรา
สกินแคร์กู้สิว

เห็นปริมาณแล้วอย่าเพิ่งตกใจ รู้ว่ามันเยอะมาก

แต่ไม่ได้ใช้หมดนี่ในทุกวันนะ55555

สลับไปตามสภาพผิว สภาพสิวแต่ละวันด้วยจ้า


จากนี้จะแนะนำตั้งแต่ตัวที่ใช้ตั้งแต่ล้างหน้าจนแต่งหน้าเลย


เราเป็นคนผิวธรรมดาถึงผิวผสม

ไม่ใช่คนหน้าแห้ง แต่ตัวตามวัยแล้วพอเริ่มใกล้28รู้สึกได้ว่าผิวแห้ง มือแห้งไม่เหมือนวัยใส

สัตว์โลกยอมเป็นไปตามกรรม และบำรุงตามวัยกันนะ5555555555

แต่ที่ยังเหมือนเดิมคือหากทาครีมบำรุงความชุ้มชื้นเยอะไปเราจะสิวขึ้น

เพราะเราไม่ใช่คนหน้าแห้ง ความชุ้มชื้นเยอะไปกอุดตันรูขุมขนซะเอง

สูตรเราเลยค่อนข้างเหมาะกับคนผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดานะ

ทุกตัวที่เราแนะนำซึมง่ายหมดจ้า สบายผิว

แนะนำตัวที่ควรมีก่อนแล้วกัน !!


เรียงลำดับซ้ายไปขวานะ

1.Estee Lauder Advanced Night Repair

เซรั่มตัวดังที่หลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว

ตัวนี้จะช่วยซ่อมแซมผิว เราใช้ทั้งเช้าและกลางวัน

เพราะกลางวันมันจะทำหน้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ด้วย


ตัวดีตอนแรกเราใช้ทาตอนที่สิวจะขึ้น แปะไปนิดเดียววันรุ่งขึ้นหายเลย!

แต่ข้อเสียของตัวนี้คือใช้ไปพักนึงผิวจะดื้อ..

แนะนำให้ใช้ๆหยุดๆ พักเดือนนึงแล้วกลับมาใช้ใหม่


2.Mediheal Teatree CareSolution Essential Mask

มากส์ยี่ห้อMedihealนั้นโด่งดังมากทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลี

ส่วนใหญ่คนจะนิยมสีฟ้าสูตรเติมน้ำผิว แนะนำให้ใช้สลับกะตัวที่จะแนะนำ

ตัวที่เราแนะนำวันนี้คือสีเขียวสูตรรักษาผิว ปลอบประโลมผิวให้ดีขึ้น

ให้ผิวที่อักเสบนั้นผ่อนคลาย คือ10นาทีเห็นผลชัดเจน !!!

วันรุ่งขึ้นคือผิวผ่องขึ้น สิวดีขึ้นชัดเจนมากก ตัวนี้มาร์กได้ทุกวันจ้า เราผิวดีขึ้นเพราะตัวนี้จริงๆ


3.แผ่นแปะสิว (ในรูปคือของ G9skin กับ Oliveyoung)

ยี่ห้ออะไรก็ได้จ้าาา ตอนแรกซื้อ 3m มาจากไทยกับเกาหลีเยอะมาก ใช้หมดแล้ว ซื้อของใหม่ของเกาหลีมา คือแปลกใจที่ประเทศญี่ปุ่นไม่มีแผ่นแปะสิวขายจ้า ไม่มีแบรนด์ญี่ปุ่นให้ซื้อ แต่แนะนำของเกาหลีดีจริง ของ3M มันแอบหนา บางทีตื่นมาหลุด ของเกาหลีคือแปะปุ๊ปอยู่เลย !!

สองยี่ห้อนี้คือดีมาก ดูดสิวดี แปะทนไม่หลุด บางดี


เทคนิคการใช้ แปะตอนที่มันอักเสบ ก่อนที่มันจะดำ!!

แปะสิวที่นูนๆแต่ไม่มีหัวไปก็เท่านั้นอะ ไม่ออกหรอก พวกดำๆฝังอยู่ใต้ผิวแล้วออกยากละ ต้องใช้อีกวิธี

ให้แปะตรงที่ไขมันมันกำลังจะระเบิด หรือมีอยู่แต่บีบไม่ออก

ปกติสิวฮอร์โมนมันจะอักเสบ > เริ่มนูน > หัวขาว แปะตอนมันขาวคือดีที่สุด !!

แปะตอนแดงก็ช่วยลดการอักเสบ แต่แนะนำว่าตอนแดงทายาดีกว่า เดี๋ยวแนะนำให้ด้านล่าง

ถ้าไปหาหมอหมอมันก็บีบให้เราอยู่ดีแถมกดแรงเป็นรอยต่ออีก

หากสิวไหนที่รู้สึกบีบนิดเดียวจะออกละบีบเองเลย ละทาครีมแล้วแปะแผ่นแปะสิว

มันจะช่วยดูดไขมันออกให้หมดเลย ทีนี้สิวก็จะไม่เหลืองค้างไว้ และไม่ดำ!!

การบีบสิวไม่ควรบีบแรงนะ อันไหนมันไม่ออกแน่ๆอย่าไปฝืนมัน เดี๋ยวเป็นรอย

แต่ถ้ารู้ว่ามันจะออกอยู่ละแต่ไม่ยอมบีบเนี่ย มันจะเริ่มฝังเข้าไปในผิวละดำ คราวนี้รักษายากกว่าเดิมจ้า


4.Innisfree Bija Cica Balm FX

ครีมซิก้าาาาาาาาา

บอกเลยว่าคนที่เป็นผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวครีมที่มีซิก้าคือช่วยได้มากจริงๆ

ตัวนี้ซื้อที่เกาหลีละลองใช้เลย ขนาดไม่ค่อยได้นอน ตื่นมาอีกวันผิวดีขึ้นมากกก สิวลดลง

ครีมซิก้าที่ดังสุดเป็นของแบรนด์ Dr.Jart ซื้อมาแล้วแต่ยังไม่ได้ลองเหมือนกัน

เห็นในรีวิวเนื้อจะเป็นสีเขียวเล็กน้อย กะว่าจะใช้ตอนฤดูหนาว เพราะน่าจะชุ้มชื้นกว่า

แต่ของอินนิสฟรีคือปลื้มมาก มันบางเบา ซึมเข้าผิวไปเลยไม่มัน ไม่มีสี

เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ที่ไทยคือใช้ดีแน่นอน

ใครกำลังหาครีมรักษารอยสิวอยู่ตัวนี้ก็ได้ผลจ้า


สรุปแล้วสกินแคร์สำหรับคนไม่ได้แต่งหน้ามีแค่นี้คือรอดแล้ว

ใช้4ตัวนี้อาทิตย์เดียวไม่ดีขึ้นแสดงว่ามีปัญหาที่จุดอื่นด้วยแน่ๆ


คราวนี้มาต่อที่คลีนซิ่งกันดีกว่า

ล้างหน้าให้สะอาดและอ่อนโยน

ใครที่เป็นสิวเสี้ยนตรงจมูก

อ่านไว้ก็ได้ประโยชน์จ้า


สิวเสี้ยนตรงจมูกมันคือต่อมไขมัน

เราก็เคยมีสิวเสี้ยนจมูกขรุขระๆ

ตั้งแต่เปลี่ยนวิธีล้างหน้าก็ไม่มีอีกเลย


หากล้างหน้าสะอาด สิวเสี้ยนหมด

สิวอุดตัน สิวฮอร์โมนก็ไม่มา!!


วิธีการล้างหน้าของเราคือใช้คลีนซิ่งวอร์เตอร์ก่อน

ตัวที่เราใช้อยู่ตอนนี้คือหอบมาจากไทย

Garnier Micellar Cleansing Water

ตัวนี้พลังในการล้างน้อยมาก

ใจเย็นๆกันนะคะ ค่อยๆเช็ดค่อยๆล้าง

อ่อนโยนไว้ เราเป็นสิวอยู่

หากอยากได้สะอาดไวกว่าเดิมหน่อยก็ Bifesta หรือ Innisfree เลยจ้า ก่อนหน้านี้ใช้ ตอนนี้แค่หมดแล้วเฉยๆ


หลังจากเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งน้ำแล้วต่อด้วยคลีนซิ่งแบบบาล์มหรือครีม



คลีนซิ่งบาล์ม Duo สีแดง ตัวนี้ใช้มาหลายกระปุกแล้ว

คือดีมากกก ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตอนนี้ผิวที่เป็นสิวเรากำลังอ่อนแอ จึงมีความพยายามปกป้องผลภาวะด้วยตัวเองอยู่ บางทีรูขุมขนกับผิวชั้นนอกเราจะแข็งตัวเป็นพิเศษ ทำให้สิวหลุดออกมายาก

หากใช้คลีนซิ่งประเภทนี้จะทำให้ผิวนุ่มขึ้น ชุ้มชื้น และสะอาดลึก

ช่วงที่ใช้กับไม่ใช้คลีนซิ่งประเภทนี้ผิวต่างกันมากจริงๆ หากเช็ดหน้าอย่างเดียวสิวเสี้ยนตรงจมูกจะมาจ้า

แถมแข็งๆบีบออกยากๆ พอใช้ตัวนี้สิวมันจะหลุดออกมาเอง

ตัวนี้คือกำลังฮิตมากในญี่ปุ่น ใช้ดีจริงคอนเฟิร์ม หาซื้อได้ตาม loft ญี่ปุ่นนะ ร้านขายยามัตสึโมโต้ไรงี้ไม่มี

วิธีใช้ ตักบาล์มประมาณ 1 ช้อนที่มีมาให้ แล้วนวดบนฝ่ามือให้บาล์มละลายก่อน แล้วนวดลงบนหน้าจนเครื่องสำอางหลุดออกมาระดับนึงค่อยโปะน้ำลงบนหน้าเล็กน้อยแล้วนวดต่อ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด



และบางวันก็ใช้ SK II Facial Treatment cleansing gel เวลาใช้ตัวนี้ล้างไม่ค่อยรู้สึกสะอาดเท่าไหร่ แต่รู้สึกผิวได้รับการบำรุงอะ วันไหนไม่ได้แต่งหน้าหนาจะใช้ตัวนี้

ตัวเนื้อมันวาวๆ เหมือนมีกากเพชรอะ ใช้ละรู้สึกวันนี้ทำสปาหน้ามา 555555








ต่อมาคือเลือกโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน

ไม่มีสารทำความสะอาดที่รุงแรงเกินไป เลือกที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา



เลือกโฟมล้างหน้าดี ชีวิตเปลี่ยน ไม่ต้องลงทุนสกินแคร์ให้แพง

ก่อนจะเป็นสิวจริงจังแบบนี้ก็เคยลองเปลี่ยนโฟมล้างหน้าละก็ไม่เป็นสิวอีกเลย!!

แต่ตอนนี้คือสิวฮอร์โมนไง โฟมล้างหน้าอย่างเดียวไม่ช่วยละ 😂

ใครที่เป็นสิวเสี้ยนของเปลี่ยนโฟมล้างหน้าดูช่วยได้จริงๆน้า


ตัวแรก Biore ไม่มีชื่ออังกฤษครับ

พิมพ์ยุ่นไว้ให้นะ ビオレおうちdeエステ マッサージ洗顔ジェルなめらか

เป็นโฟมล้างหน้าสำหรับนวดหน้าช่วยให้หน้านุ่มเหมือนไอเอสเต้มา

ตัวนี้ฮิตมากเมื่อปีที่แล้ว แล้วเราก็ใช้มาหลายหลอดมากตั้งแต่เป็นสิวหนัก

ตัวนี้ช่วยให้ผิวนุ่มและขจัดสิวเสี้ยนตรงจมูกจ้า ราคาก็ถูกสุดในนี้ด้วย

ใครมีปัญหาสิวเสี้ยนลองเลยแนะนำๆ

เราจะใช้ตอนที่รู้สึกสิวมันใกล้จะออกละแต่มันแข็งอยู่

ใช้ตัวนี้ล้างหน้าก่อนละสิวมันหลุดออกมาง่ายขึ้น




ตัวถัดมาของเกาหลีจ้า ยี่ห้อ BANILA CO clean it ZERO

คือซื้อคลีนซิ่งบาล์มมาแล้วใช้ดี(ดีพอๆกับ DUO ที่แนะไปด้านบนเลย แต่ดูโอ้ดีกว่าจริงๆแหละ.. ตัวนี้ถูกกว่า แก้ขัดได้) เลยลองซื้อโฟมล้างหน้ามาใช้คู่กันเฉยๆ

ก็ดี ไม่ว้าว หน้าสะอาด ใครชอบหน้าเกลี้ยงๆตัวนี้คือดี ปรับผิวขาวขึ้นนิดนึงด้วย

แต่ไม่ว้าวเท่าไหร่ ไม่รีพีทจ้า มาแชร์เฉยๆว่าโอเคในระดับหนึ่ง กลางๆ




d program conditioning wash

ตามชื่อเลยจ้า conditioning wash เราปลื้มตัวนี้มาก ใช้ตัวนี้คู่กับน้ำตบกับครีมแล้วรู้สึกผิวสุขภาพดีขึ้น ไม่ได้เป็นการรักษาสิวระยะสั้น แต่ระยะยาวผิวแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้อากาศแบบเรา ช่วงเปลี่ยนฤดูตัวนี้ช่วยให้ผิวปรับสมดุลได้ง่ายขึ้น อ่อนโยนมาก ล้างสะอาด เราใช้คู่กับเซ็ทสีฟ้า d program แล้วผิวลื่นมากกกก ใครที่เป็นสิวฮอร์โมนเซ็ทสีฟ้ากับโฟมนี้แนะนำมากๆ

d program สีเหลืองช่วยรักษาสิววัยรุ่น สิวอักเสบไรงี้เคยใช้ละไม่ได้ผลเลยสักนิดเดียว แต่ตัวนี้เราได้ผลจ้า ตอนนี้ที่ไทยก็หาซื้อได้ตามวัตสันน้า แนะนำจริงๆ

ที่จริงแล้วโฟมล้างหน้าของLA ROCHE-POSAY ก็ดีมากกกเหมือนกับตัวนี้เลย

แต่ใช้หมดไปแล้วเลยไม่มีรูปจ้า ไว้ใช้ BANILA CO clean it ZERO หมดก่อนค่อยกลับมาใช้ใหม่


ส่วนตัวขวาสุด ซื้อที่ไทยนี่แหละ

ไม่ต้องแนะนำเยอะ สมูทอี โฟมไม่มีฟอง ใช้แล้วเหมือนได้บำรุงผิว ผลัดเซลผิว หน้าสว่างขึ้นระดับหนึ่ง

รอยสิวจางเร็วขึ้น ใช้แค่อาทิตย์ละ2-3ครั้ง แล้วแต่อารมณ์จ้า


น้ำตบ/โทนเนอร์นั้นสำคัญที่สุดในบรรดาสกินแคร์

ตอนอยู่ไทยก็ใช้แค่ฮาดะลาโบะนี่แหละ

ยิ่งมาอยู่นี่ดีใจฮาดะลาโบราคาก็ถูก ไม่เปลืองตัง ที่ไหนได้ มาอยู่นี่ใช้ฮาดะลาโบะแล้วสิวขึ้น

สิวอุดตันขึ้น ไม่ทาก็ไม่ได้ผิวแห้ง ทาครีมอย่างเดียวก็ดูไม่ช่วยให้ผิวดีขึ้น

จนมาเจอน้ำตบตัวซ้ายสุด Curel

●น้ำตบของ Curel เราซื้อมาเป็นเซ็ททดลอง

ที่สามารถหาซื้อได้ตามรานขายยาทั่วไปในญี่ปุ่น มีตั้งแต่น้ำตบ ครีมน้ำนม เจลล้างหน้า โฟมล้างหน้า

เซ็ทนั้นคือกู้หน้าให้รอดพ้นสิวมาในช่วงวัย24-26 (27แล้วไม่ค่อยได้ใช้)

ตอนหลังลดเหลือแค่น้ำตบตัวเดียว

ด้วยส่วนผสมของเซรามิดใช้แล้วรู้สึกผิวชุ้มชื้นแข็งแรงขึ้น มีไว้ตลอด รู้สึกอุ่นใจ


●d program balance care lotion II

ตัวนี้คือตอนแรกรู้สึกธรรมดาเหมือนกับน้ำตบของ Curel เลย

ซื้อเซ็ททดลองมาใช้ตอนต้นปีเพราะสิ้นหวังกับการสิวเห่อและอักเสบอยู่

ในเซ็ทมีน้ำตบ ครีมน้ำนม โฟมล้างหน้า

พบว่าสิวฮอร์โมนดีขึ้นภายในอาทิตย์เดียว!!

มันปรับสมดุลผิว ช่วยให้แบคทีเรียบนผิวมันมีสมดุลมากขึ้นอะ

ช่วยให้สิวขึ้นยากกว่าเดิม ปลื้มมากก แต่ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องชุ้มชื้นเท่าไหร่ อยากได้ชุ้มชื้นคือตัว Curel

เราใช้ตัวนี้แค่วันที่รู้สึกอยากเบาๆ รู้สึกผิวมันผิดปกติ สิวน่าจะขึ้น อากาศเปลี่ยน

ที่บอกไปตอนแนะนำโฟมล้างหน้า ใช้คู่กันละผิวลื่นขึ้นมากด้วยจ้า

แต่ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องความชุ้มชื้นใดๆนะ คผิวแห้งอาจจะไม่เหมาะ


●Origins MEGA-MUSHROOM

ตัวดังที่รู้จักกันอยู่แล้วเนอะ รู้สึกได้ว่าให้ความชุ้มชื้นเยอะสุดในสามตัว

ตัวนี้ซื้อเซ็ททดลองมาอีกแล้ว ซื้อมาจากไทยมีเซรั่มกับครีมด้วย แต่อากาศที่นี่เริ่มชื้นแล้ว

ขอเก็บไว้ใช้ช่วงอากาศแห้งอย่างฤดูใบไม้ร่วง

สารสกัดจากเห็ดอะ เห็ดก็เป็นแบคทีเรียอยู่แล้ว ให้ความรู้สึกเพิ่มแบคทีเรียดีของผิว

บาเรียร์ของผิวแข็งแรงขึ้น พักนี้ใช้ยาฆ่าเชื้อสิวอยู่เลยใช้ตัวนี้เกือบทุกวันเลยจ้า


ทำไมการไปหาหมอสิวที่ไทยคนถึงบอกว่าเขาเลี้ยงไข้?

เพราะว่ายาที่หมอให้มามันแรง มันฆ่าเชื้อสิวโดยตรง

ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะ แต่มันเป็นการรักษาให้เห็นผลในระยะสั้น

ใครที่ผิวอ่อนแออยู่แล้ว พอหยุดสิวจะกลับมาเห่อเพราะผิวไม่มีภูมิต้านทานเชื้อสิวยิ่งกว่าเดิม

เพราะยาของหมอจะฆ่าเชื้อสิวพร้อมกับแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันเชื้อสิวบนใบหน้าเราไปพร้อมกัน

น้ำตบ3ตัวด้านบนนี้จะช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีให้กับผิว ผิวแข็งแรงขึ้น ในระยะยาวน้า


เซรั่ม มีไว้ตามอายุขัย

ใครยังเด็กจริงๆไม่ต้องทาก็ได้นะ T_T)

จากการศึกษาเรื่องเครื่องสำอางแล้ว เซรั่มมีสารบำรุงเข้มข้นมากที่สุดก็จริง แต่แทบจะไม่มีความต่างจากน้ำตบหรือครีมน้ำนมเลย แค่ออกมาเป็นเซ็ทตัวกลางใช้ระหว่างน้ำตบกับครีมน้ำนมหรือครีม

ใครที่เริ่ม20ปลายๆ เริ่มต้องการบำรุงค่อยเริ่มใช้ หากใช้ตั้งแต่20ต้นๆ ผิวจะชินและชาไปเอง


ทั้งนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนด้วย เราเองก็มีเซรั่มเยอะมาก แต่พอเป็นสิวละใช้ไม่ค่อยได้ ช่วงนี้พอสิวเริ่มหายดีแล้วผิวพร้อมรับวิตามินแล้วถึงกลับมาใช้ได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องสิว


เซรั่มที่ลองใช้ละเวิร์คสำหรับสิว

1.Estee Lauder Advanced Night Repair

แนะไปแล้วข้างต้น ไม่พูดเยอะ แวะขึ้นไปอ่านข้างบนนะ

ใช้แล้วสิวหายไวขึ้นมากสำหรับเรา


2.NKB ZERO

เห็นมันวางขายอยู่ในร้านเครื่องสำอางเลยจัดมา เป็นของญี่ปุ่น

ของญี่ปุ่นอะไรก็อ่อนโยนต่อผิว สำหรับเราแทบไม่เห็นผลเลยจ้า

แต่ว่า!! รู้สึกว่าทาไประยะนึงแล้วแล้วผิวแข็งแรงขึ้น สิวอุดตันหลุดง่ายขึ้น

ตอนนี้เลยใช้แค่เฉพาะกลางวัน ให้มันหมดๆไป

ใครเป็นสิววัยรุ่นน่าจะได้ผลดีอะ อ่านรีวิวมามีแต่คนบอกได้ผลจ้า เรามันแก่แล้วT_T


3.Mad Hippie Vitamin C Serum

ตัวนี้เป็นสินค้าออร์แกนิคชื่อดังของอเมริกา เราใช้แล้วไม่ระคายเคืองเลย

ปกติเราเป็นคนใช้เซรั่มวิตามินซีไม่ได้ มันแรงสำหรับหน้าบางๆของเรา

ทาแล้วหน้าแสบ ดำ อยากขาวก็หมองซะงั้น

ของ It’s Skin ที่คนว่าดี เราซื้อมาใช้ก็แสบหน้า เลยให้คนอื่นไป

ตัวนี้คืออ่อนโยนต่อผิวมาก ว่าจะลองใช้สักพักก่อนจ้า

ในขวดนี้มีวิตามินEผสมด้วย เหมาะกะวัยเริ่มเหี่ยวอย่างเราดี

ว่ากันว่าตัวนี้ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง รอยแดงจากสิวก็จางลงเร็ว สิวฮอร์โมนหายไวขึ้น

ผิวกระจ่างใส ปกป้องผิวและฟื้นฟูจากแสงแดดในตอนกลางวัน

หากเห็นผลไงจะมาอัพเดทอีกทีนะ


มาร์กที่ดีต่อผิวเป็นสิว

ช่วงเป็นสิวเนี่ย เราล้มเลิกความตั้งใจในการมีผิวนุ่มไรแบบนั้นไปได้เลย

รักษาสิวให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากัน..

เพราะประสบการณ์ตรงเลยคือ ยิ่งใช้มาร์กเพิ่มความชุ้มชื้นมากเท่าไหร่ สิวก็ยิ่งขึ้นมากเท่านั้น


แต่ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นสิวแล้วไม่บำรุงให้ผิวชุ้มชื้นเลย

นั่นก็ทำให้สิวหายช้าลงไปอีก ตัวที่จะแนะนำนี่คือ ให้ความชุ้มชื้น สิวหายไว แถมสิวไม่อักเสบด้วย!!

ส่วนใหญ่เป็นของเกาหลีจ้า อ่อนโยนต่อผิวแม้จะเป็นสิว พิสูจน์โดยเราแล้ว


●ตัวแรกเป็นมาร์กสำหรับสิวผู้ใหญ่(adult acne)โดยเฉพาะ ยี่ห้อ Kracie

มีส่วนช่วยฆ่าเชื้อสิว เพิ่มความชุ้มชื้นแบบบางเบา(บางเบามากจริงๆ) แถมช่วยให้หน้าขาวใส

แต่สำหรับเราแทบจะไม่เห็นผลเลยยยยย ใช้สำหรับวันที่อยากมาร์กเบาๆเท่านั้น อารมณ์ใช้บูสเตอร์แล้วบำรุงเพิ่มอีกนิดนึงเท่านั้น ของญี่ปุ่นอะไรก็เบาหมดอันนี้ต้องทำใจ แต่สิวดีขึ้นจริงๆแม้จะไม่เท่าของเกาหลี


●มาร์กแตงกวากับบล็อคคอรี่ของinnisfree

คือดีมากจ้า ดีจริงๆนะ แถมถูกด้วย(ที่ไทยอาจจะไม่ถูกเท่าไหร่)

วันไหนอยากพิเศษหน่อยใช้ตัวนี้เหมือนได้เติมน้ำ เติมสารอาหารผิวเต็มที่ ผิวสว่างขึ้น หน้าผ่องในวันถัดไป แถมสิวไม่อักเสบ อ่อนโยนมากๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าสิวหายนะ อยากสิวหายคือ3ตัวถัดไปเลย!!


●มาร์กหน้า mediheal สูตรteatree สีเขียว

ตั้งแต่เป็นสิวละรักษาเองจริงจังเหมือนโดนแบรนด์นี้ผูกขาดไปแล้ว เพราะไม่มีอะไรดีกว่าแบรนด์นี้อีกแล้ว!!!! ตัวนี้สิวอักเสบก็ยุบได้ภายใน10นาที วันรุ่งขึ้นสิวที่จะขึ้นก็หายไปเลยเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผิวผ่องใส ใช้ทุกวันคือดีมาก แต่บางทีก็เบื่อไง เดี๋ยวผิวชิน ใช้สลับบ้าง พักผิวบ้างนะ


●มาร์กหน้า mediheal สูตรaquaring สีฟ้า

มาร์กเติมน้ำให้ผิวที่เลิศมาก ขายดิบขายดีทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลี ใช้สลับกับตัวด้านบน ผิวชุ้มชื้นสุขภาพดีขึ้น สิวไม่อักเสบด้วย ดีงามมากกก ใครอยากแต่งหน้าวาวฉ่ำตัวนี้ช่วยได้จ้า ไม่ต้องเป็นสิวคนก็ใช้กันทั่วไป


●มาร์กหน้า mediheal สูตรdreessing

ตัวนี้ใช้คู่กับเซรั่มหลอดของ mediheal คือเปลี่ยนผิวหน้าวันถัดไปเลยอะ ผ่องเวอร์ แถมสิวดีขึ้น

แม้จะไม่ได้รักษาสิวเท่า teatree แต่ตัวนี้ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย ใช้แค่เดือนละ2-3 ครั้งจ้า



มาร์กCicapair ของDr.Jart ก็ดีจ้า

ตัวนี้ชุ้มชื้นมาก เหมาะสำหรับฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวเร่งด่วน

อยากให้ได้ผลมากขึ้นก็ทาครีม Cica เพิ่มอีกขั้นตอน


บูสเตอร์ เซรั่ม ครีม สำหรับคนขี้เกียจ

MEDIHEAL Masking Layering Ampoule

ตัวนี้เว่ยยย

เหมาะสำหรับคนขี้เกียจ

และคนต้องการบำรุงพิเศษ

มันคือเซรั่มมาเป็นหลอดเลยยยย

มันดีมากกกกก

คือไม่ต้องมาร์กหน้า หยดไปเลย

ทาตัวแรกของสกินแคร์แทนบูสเตอร์ได้

ทาซ้ำสองรอบเป็นเซรั่ม

ทาซ้ำสามรอบเป็นครีมได้เลย


คำอธิบายภาษาอังกฤษ👇

1st Boosting active energy transfer

2nd Consentrating centralized supply of energy

3rd Keeping skin protection film generation


แถมซึมเร็วมากกกก คว่ำหลอดลงบนหน้า

หยดลงบนหน้าโดยตรงได้เลย

ปกติใช้ครั้งหนึ่ง5หยด

ทิ้งไว้15วิแล้วลงครั้งถัดไปได้เลย

ไปเกาหลีซื้อมาตุนไว้เยอะมาก ปีนี้ไม่ต้องซื้อแล้วอะ ยาวๆไปเลย


เวลาเราไปออกทริปต่างจังหวัด เอาครีมไปแค่หลอดนี้จบเลย ไม่ต้องพกเยอะ


ใครเป็นสิวแนะนำสีเขียว มันคือสูตรเดียวกับ มาร์กหน้า mediheal สูตรdreessing

ใช้คู่กันคือปิ๊งมาก สิวดีขึ้นมากเวอร์ มันช่วยซ่อมผิว ฟื้นฟูผิว

ส่วนหลอดสีฟ้าช่วยเติมน้ำผิว หยดไปรู้เรื่อง ผิวเด้งทันที!!

ใช้คู่กันได้นะ แบ่งคนละรอบ ตัวนี้ใครไปเกาหลีแนะนำให้ซื้อมากจริงๆ มันดีมาก!!

คนขี้เกียจมาร์กหน้าตัวนี้เลย ดีมากเวอร์


ทั้งนี้การไปหาหมอควบคู่ก็เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง

เลือกหมอดีๆ ไม่เลี้ยงไข้นะคะ

ยาวมากแล้ว ขอให้ทุกคนกลับมามีผิวที่ดี มีความสุขในทุกๆ วันกันนะคะ


----------------------

---------------------


bottom of page